นี่เป็น Blog ที่เราสร้างขึ้นมา เพื่อตอบสนองความต้องการของตัวเองล้วนๆเลย
คือ ความต้องการ "ด้านการคิด"
ปกติ หลิวเป็นคนชอบคิด แต่นานๆครั้งจะเอามาเขียนอย่างเป็นทางการ
ส่วนมากจะบ่น จะพูดถึงอยู่ใน facebook ส่วนตัวของตัวเองมากกว่า
จนวันนึง หลิวเริ่มสังเกตว่า มีคนเริ่มมาสนใจการวิพากษ์วิจารณ์ของหลิวเองในเฟสมากขึ้น
บางครั้งก็มาถามว่า ทำไมไม่ลองพูดถึงเรื่องนี้ดู เรื่องนั้นบ้าง...
หรือบางทีก็มีรุ่นน้องมาขอคำแนะนำ (ไม่น่าเชื่อเล้ยยยยยย...)
หลิวเลยคิดว่า เอาแบบนี้แล้วกัน
สร้าง Blog เขียนแบบเป็นเรื่องเป็นราวเลยดีกว่า
เพราะส่วนนึง หลิวก็อยากพัฒนาด้านความคิดของตัวเองไปเรื่อยๆค่ะ สมองจะได้ไม่ฝ่อไปซะก่อน
ขออนุญาติออกตัว ณ ทีนี้ก่อนเลยว่า
หลิวไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับงานวิจารณ์อะไรทั้งสิ้น
บทความที่หลิวเขียนออกมา ทั้งหมดจะออกมาจากการคิดวิเคราะห์ของหลิวเอง
โดยใช้บริบททางสังคม และทฤษฎีทางวรรณคดีวิจารณ์ และวรรณคดีเปรียบเทียบ มาใช้บ้างตามความสามารถและความรู้ที่ได้ร่ำเรียนมาค่ะ
มันอาจจะไม่ได้สมบูรณ์แบบนัก แต่หลิวจะพยายามพัฒนาไปเรื่อยๆ เพราะหลิวชอบทางด้านนี้ค่ะ แล้วตัดสินใจว่าจะเรียนต่อทางด้านนี้ด้วย(ตอนนี้จบป.ตรีแล้วค่ะ)
โดยส่วนตัว หลิวไม่ได้เป็นคนมีสาระมากมายเท่าไหร่ (ในการเรียน)
ไม่ใช่เด็กเรียนนั่งหน้าห้อง จำตัวหนังสือได้ทุกตัวอักษร
ถ้าพูดคำว่านักเรียนดีเด่น คนแรกที่ถูกตัดออกคือหลิวแน่นอน
เพราะหลิวไม่ใช่นักเรียนดีเด่นค่ะ หลิวเป็นพวกเรียนเพราะอยากรู้
เรื่องไหนไม่อยากรู้ก็ไม่ค่อยสนใจมันเท่าไหร่เอาแค่ผ่าน
แต่ถ้าเป็นเรื่องไหนที่อยากรู้
หลิวสามารถบ้าศึกษามันได้มากกว่า 8 ชั่วโมงติดต่อกัน (เคยมาแล้วจริงๆนะ)
และปัจจุบัน
หลังจากที่เรียนจบก็เริ่มรู้จักตัวเอง
ความจริงต้องบอกตรงๆว่ารู้จักตัวเองน่าจะสักประมาณปีสามปลายๆ
เพราะตอนนั้นมีวิชาวรรณกรรมเปรียบเทียบ รวมไปถึงวิชาอื่นๆ
ขออนุญาติเอ่ยชื่่ออาจารย์นะคะ
ผู้สอนคือ อ.ดร.บัวริน วังคีรี อาจารย์ท่านนี้เป็นอาจารย์ที่จุดประกายในด้านการคิดวิเคราะห์ให้หลิว
เริ่มจากที่ได้ลงเรียนกับอาจารย์ อาจารย์ท่านสอนยากค่ะ
แต่สอนเราอย่างเต็มที่ ตอนแรกหลิวก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมตัวเองบ้าลงเรียนวิชาที่อาจารย์ท่านสอนขนาดนั้น ทั้งๆที่แต่ละวิชา ท่านสอนแบบโหดหินเหลือเกิน
เทอมนึงมีหนังสือให้อ่านมากกว่า 10 เล่ม (ไอ่เราก็อ่านบ้างไม่อ่านบ้าง ...แต่พอเรียนจบแล้วดันเอามาอ่านหมด ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ทำไมตอนเรียนไม่ค่อยจะอ่าน)
สุดท้ายเราก็เลยเริ่มซึมซับ เริ่มวิเคราะห์เป็น (จากแรกๆที่ไม่ค่อยเก็ทเท่าไหร่)
ค่อยๆเก็บเกี่ยวความเคยชิน และเรียนรู้ตัวเองจนเกือบจบปี 4 สุดท้ายก็ค้นพบสิ่งที่ตัวเองต้องการ (จะเรียนจบละ เพิ่งค้นพบ)
"ฉัน...ชอบบบบบ วิเคราะห์ สังคม อ้ากก อ้ากกกก"
บางคนอ่านมองว่าไร้สาระ แต่หลิวมองว่าการคิดวิเคราะห์มันทำให้เรารู้อะไรมากขึ้น
หลังจากนั้นก็เริ่มคว้านู่น คว้านี่มาอ่าน ทรัพยากรอันมีคุณค่าที่อาจารย์คอยพร่ำบอกให้เก็บไว้และให้ไปถ่ายเอกสาร (ซึ่งเราก็ทำตาม ถึงจะไม่ค่อยซาบซึ้งเท่าไหร่ว่าจะถ่ายไว้ทำไมนักหนา )
ก็เริ่มหามาอ่าน หามาศึกษา
บอกตรงๆค่ะ หลิวมาศึกษาหลังเรียบจบแล้วจริงๆ
อาจด้วยเพราะ พอจบ เราได้ลองทำงาน ลองทำอะไรหลายๆอย่าง ฝึกงานเลขา สอนพิเศษ ทำเว็บไซด์ ทำseo ขายสินค้า pre-order ทำมาหมดแล้วทุกอย่าง มันก็รู้สึกว่าเราทำไปวันๆ ทำไปสักพักก็เบื่อ รู้แล้ว ทำได้แล้วก็เริ่มสนใจ เริ่มหมดความอยากรู้
อย่างหลิวเคยทำ SEO เนี่ย หลิวเคยบ้าศึกษา ทำเองคนเดียว บ้าเองคนเดียวอยู่ประมาณ 2-3 เดือน ทำจนเว็บไซด์ที่ตัวเองสร้าง (เว็บไซด์ก็ทำเองค่ะ บ้าช่วงนึงเหมือนกัน) ติดอันดับ คนเริ่มรู้จัก เริ่มขายของได้ ก็เลยหยุดละ เหมือนเราไปถึงจุดมุ่งหมายที่เราต้องการแล้ว
คือตอนแรกน่ะ หลิวแค่สงสัยว่า ถ้าเราขายของทางอินเทอร์เนต เราจะขายได้มั้ย หลิวว่างๆ และชอบของสวยๆงาม(แต่ไม่ชอบซื้อ มันเปลือง) เลยลองเอามาขายดู แต่การขายของก็ต้องมีอะไรหลายๆอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการทำการตลาด สร้างเว็บไซด์ หาของมาขาย
ในทีนี้บอกตรงๆเลยว่า หลิวเป็นคนงกมาก ในตอนนั้นหลิวคิดว่า
"ฉันแค่อยากลองว่ามันจะขายของทางเนตยังไง"
คิดแบบคนที่จะไม่ยอมลงทุนอะไรเลย หรือถ้าลงทุนจะต้องน้อยที่สุด จนสุดท้าย หลิวทำมันเองทุกอย่าง
ตั้งแต่ทำเว็บ ออกแบบแบนเนอร์เอง ทำSEOเอง ไม่พอสินค้าที่ขายหลิวยังหาทางที่จะไม่ลงทุนกับมัน เลยไปศึกษาธุรกิจแบบ Dropshipping จนไปไกลกว่านั้นคือนำเข้าสินค้า pre-order จากจีนในที่สุด
ทำเองทุกอย่างค่ะ ศึกษาเองทุกอย่าง หาจาก google บ้าง ไม่ก็ไปแอบเปิดหนังสืออ่านตามร้านหนังสือบ้าง (แย่เนอะ) จากที่ไม่เคยทำ ก็บ้าศึกษา คือต้องทำให้ได้อ่ะ มันจะเหนื่อยยังไงไม่สน ต้องทำให้ได้ หลิวถือว่ามันเสียแค่แรง มันไม่ได้เสียเงิน เราลงทุนแค่แรงกับสมอง แล้วมันก็สำเร็จ จากนั้นความอยากรู้ก็จางหายไป ปัจจุบันก็ยังคงทำอยู่ค่ะ (มันสร้างรายได้อ่ะ) แต่ไม่ได้บ้าศึกษาข้ามวันข้ามคืนแบบช่วงที่ทำใหม่ ก็ทำไปเรื่อยๆ...เช็คออเดอร์ไปตามประสา
พอความตื่นเต้นจากประสบการณ์ใหม่หมดไป หลิวก็เริ่มกับมาอยู่จุดๆเดิม เริ่มคิดเริ่มเขียน ตอนนี้เองนี่แหละที่รู้ว่า อะไรที่เราชอบ อะไรที่เราไม่เคยเบื่อมัน อะไรที่เราทำจนกลายเป็นความเคยชินโดยที่เราไม่รู้ตัวและมองข้ามมันไป
สิ่งนึงที่หลิวยังไม่เลิกทำคือ ชอบอ่านหนังสือ ดูหนัง ดูอะไรต่างๆ แล้วเอามันมาวิเคราะห์ค่ะ (โดยไม่รู้ตัว) พร่ำบ่นลงในเฟสบ่อยๆ แล้วมันก็หายไป
เพราะสถานะเฟสบุ๊คชอบเลื่อนหายสาปสูญ สุดท้ายเลยตั้งใจสร้าง Blog นี้ขึ้นมาค่ะ
เอาไว้คิดวิเคราะห์ เอาไว้ฝึกปรือสมอง
เพราะหลิวตั้งใจว่าจะสอบเรียนต่อทางด้านวรรณคดีเปรียบเทียบ
เพื่อเป็นศึกษาสิ่งที่เราอยากรู้เพิ่มมากขึ้น แต่ก่อนจะสอบ เราก็ต้องหัดคิด หัดเขียนให้เยอะๆ
เพราะไม่งั้นคงสอบไม่ผ่านจริงมั้ยคะ อีกอย่างถึงแม้ว่าในท้ายที่สุดแล้วหลิวจะสอบไม่ผ่านก็ตาม
หลิวก็ยังคงจะฝึกคิดฝึกเขียนแบบนี้ไปเรื่อยๆอยู่ดี
การคิดทำให้เรารู้จักโลกมากขึ้น มองโลกมากขึ้น เข้าใจโลกมากขึ้น
คราวหน้า หลิวจะของเริ่มต้น บทความ "เพราะอยากจะคิด ..ก็เลยเขียน" ของหลิว
หลิวจะเขียนความคิดของหลิวเกี่ยวกับเรื่อง V ผู้มาเยือนนะคะ (เพราะหลิวชอบเรื่องนี้มากๆเลย)
เขียนตามสไตล์หลิวเอง เป็นความคิดของหลิวที่เอามุมมองและหลักการทางทฤษฏีเกี่ยวกับวรรณกรรมมาใช้บ้าง แต่บอกเลยว่าไม่เยอะ
เพราะหลิวไม่อยากให้มันเป็นบทความที่เป็นวิชาการ อะไรแบบนั้น หลิวอยากให้ดูชิลๆ สนุกๆ เข้าใจง่ายมากกว่า
ตอนหน้า มาพบกับ
V ผู้มาเยือน กับหัวข้อ
"ฉันเห็นอะไร ในV"
By....เส้นด้าย สีรุ้ง
ปล.เฮดด้านบนอาจจะทำให้งงๆ ตอนแรกคือหลิวสมัคร blog นี้มาเขียนบทความทำ SEO ให้กับร้านตัวเอง rainbowsilkshop เลยทำเฮดแบบนั้น ปัจจุบันอยากเปลี่ยนเฮดเหมือนกันค่ะ แต่หาไม่เจอว่ามันเปลี่ยนตรงไหนเลยค้างเติ่งอยู่แบบนั้น ถ้าใครพอรู้วิธีแก้ช่วยแนะนำ จะขอบพระคุณมากๆเลยค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น