สำหรับใครที่ยังไม่ได้ดู
หลิวจะบอกว่ามันมีสปอยเนื้อเรื่องนะคะ...
นิดหน่อย คือน้อยมากๆ
ถ้าไม่คิดอะไรก็อ่านได้ค่ะ...
สไตล์หลิวไม่ใช่การเล่าเรื่องย่อหนังอยู่แล้ว...
หลิวจะบอกว่ามันมีสปอยเนื้อเรื่องนะคะ...
นิดหน่อย คือน้อยมากๆ
ถ้าไม่คิดอะไรก็อ่านได้ค่ะ...
สไตล์หลิวไม่ใช่การเล่าเรื่องย่อหนังอยู่แล้ว...
รีวิวแนวเดิมนะคะ....เน้นวิเคราะห์ไปเลย...
จะไม่ค่อยท้าวความถึงเนื้อเรื่องเท่าไหร่ (เพราะหลิวขี้เกียจเขียน เป็นคนขี้เกียจมากกกก)
ตามนั้นเนาะ
ไปเล้ยยย
จะไม่ค่อยท้าวความถึงเนื้อเรื่องเท่าไหร่ (เพราะหลิวขี้เกียจเขียน เป็นคนขี้เกียจมากกกก)
ตามนั้นเนาะ
ไปเล้ยยย
บอกตรงๆตอนแรกหลิวไม่คิดจะดูเรื่องนี้เลย...
ตอนเห็นตัวอย่าง...
เพราะหลิวไม่ค่อยชอบหนังเพลงอะไรเท่าไหร่
(ตอนเด็กชอบนะ แต่แก่มาแล้วเฉยๆ สงสัยมันเลยวัย)
เพราะหลิวไม่ค่อยชอบหนังเพลงอะไรเท่าไหร่
(ตอนเด็กชอบนะ แต่แก่มาแล้วเฉยๆ สงสัยมันเลยวัย)
แต่พอมาเห็นตอนท้ายๆของตัวอย่าง
ที่แม่มดพูดว่า "จงเป็นเด็กเมื่อเจ้ายังมีโอกาสที่จะเป็น"
น่าจะประมาณนี้....หลิวเลยเปลี่ยนความคิดใหม่ อยากดูแล้ว...
ด้วยคำถามที่ว่า
น่าจะประมาณนี้....หลิวเลยเปลี่ยนความคิดใหม่ อยากดูแล้ว...
ด้วยคำถามที่ว่า
"ดิสนี่ย์ กำลังจะทำอะไร...........จ๊ะ"
ถ้าใครที่โตมากับเทพนิยายดิสนีย์อย่างหลิว......
เราก็คงจะเกิดคำถามนี้คล้ายๆกัน...
ถ้าใครที่โตมากับเทพนิยายดิสนีย์อย่างหลิว......
เราก็คงจะเกิดคำถามนี้คล้ายๆกัน...
การ์ตูนเทพนิยาย มีความสุขตลอดกาล......
ภาพดิสนีย์ในสายตาหลิวเป็นแบบนั้น
มันคือความฝันที่สวยงาม.....
ตอนเด็กบ้าการ์ตูนดิสนี่ย์ โ
ภาพดิสนีย์ในสายตาหลิวเป็นแบบนั้น
มันคือความฝันที่สวยงาม.....
ตอนเด็กบ้าการ์ตูนดิสนี่ย์ โ
โตมาก็มาบ้าการ์ตูนของทิมเบอร์ตัน
นั่นแหละ
นั่นแหละ
หลิวเลยเกิดคำถาม ดีสนี่ย์กำลังจะทำอะไร
จะบอกอะไร....
แนวย้อนแย้งเทพนิยายในสไตล์ของตัวเอง
ดีสนี่ย์จะให้คำตอบยังไง
จะบอกอะไร....
แนวย้อนแย้งเทพนิยายในสไตล์ของตัวเอง
ดีสนี่ย์จะให้คำตอบยังไง
โดยส่วนตัวหลิวไม่แน่ใจว่าดิสนี่ย์ เ
คยทำแนวนี้มั้ยนะคะ...
แต่สำหรับหลิว หลิวเพิ่งเห็นเรื่องนี้นะ...
อาจมีมาลิฟิเซนต์ด้วยมั้ง...
แต่เรื่องนั้นหลิวไม่ได้ดู
แต่สำหรับหลิว หลิวเพิ่งเห็นเรื่องนี้นะ...
อาจมีมาลิฟิเซนต์ด้วยมั้ง...
แต่เรื่องนั้นหลิวไม่ได้ดู
เพราะเดาตอนจบและแนวเรื่องออก เลยไม่ดู....
แต่ Into the wood นี่เดาไม่ออก....เลยต้องดู ว่าพี่ดิสนี่ย์แกต้องการอะไร
และพอดูจนจบ.....
หลิวก็....ไม่รู้ว่า....
"ดีสนี่ย์...ต้องการอะไร"
หลิวไม่รู้เพราะอะไรนะ.....
หลิวพอจะเดาออกว่าหนังต้องการชี้ให้เห็นว่า.....
โลกของเทพนิยายกับโลกแห่งความจริงมันแตกต่างกัน
มันไม่ใช่สีขาวกับดำ แต่มันคือสีเทา......
อันนี้ไม่ได้ผิดที่หนังหรอก....
ผิดที่หลิวเอง เพราะหลิวคาดหวังมากเกินไป......
หลิวคาดหวังที่จะได้เห็นการ์ตูนเด็ก หรือหนังเด็กที่ทำให้ผู้ใหญ่ดู..
ตีความยากๆ วิเคราะห์เยอะๆ
แต่พอหลิวมาเจอเรื่องนี้แล้วมันไม่ใช่...
หลิวก็....ไม่รู้ว่า....
"ดีสนี่ย์...ต้องการอะไร"
หลิวไม่รู้เพราะอะไรนะ.....
หลิวพอจะเดาออกว่าหนังต้องการชี้ให้เห็นว่า.....
โลกของเทพนิยายกับโลกแห่งความจริงมันแตกต่างกัน
มันไม่ใช่สีขาวกับดำ แต่มันคือสีเทา......
อันนี้ไม่ได้ผิดที่หนังหรอก....
ผิดที่หลิวเอง เพราะหลิวคาดหวังมากเกินไป......
หลิวคาดหวังที่จะได้เห็นการ์ตูนเด็ก หรือหนังเด็กที่ทำให้ผู้ใหญ่ดู..
ตีความยากๆ วิเคราะห์เยอะๆ
แต่พอหลิวมาเจอเรื่องนี้แล้วมันไม่ใช่...
เพราะเรื่องนี้ใช้แค่เทพนิยาย
และนำนื้อหาในเทพนิยายมาสะท้อนให้เรามองเห็นโลกแห่งความเป็นจริง....
จริงๆแล้วมันเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมากเลยนะ.
จริงๆแล้วมันเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมากเลยนะ.
...กลวิธีแบบนี้...
แต่อย่างที่หลิวบอกหลิวคาดหวังมากเกินไป...
หลิวคาดหวังจะได้เห็นหนังแบบที่ทิมเบอร์ตันทำ
แต่อย่างที่หลิวบอกหลิวคาดหวังมากเกินไป...
หลิวคาดหวังจะได้เห็นหนังแบบที่ทิมเบอร์ตันทำ
(เพราะหลิวจะได้มีตัวเลือกจากค่ายอื่นให้ดูบ้าง)
และเมื่อมันไม่ใช่ หลิวเลยออกมาจากโรงหนังด้วยอารมณ์....
"แนวเรื่องแบบนี้มันก็รู้อยู่แล้วนี่น่า..เซ็งอ่ะ"
และเมื่อมันไม่ใช่ หลิวเลยออกมาจากโรงหนังด้วยอารมณ์....
"แนวเรื่องแบบนี้มันก็รู้อยู่แล้วนี่น่า..เซ็งอ่ะ"
จนกระทั่งหลิวมาเข้าห้องน้ำ....
ก็มีเด็กๆกลุ่มหนึ่งที่พ่อแม่พามาดูหนังเรื่องนี้....
มากันหลายคนเลย..เด็กๆก็พากันร้องเพลงในเรื่อง...
"into the wood into the wood"
แล้วหัวเราะวิ่งเล่นกันอย่างมีความสุข....
"into the wood into the wood"
แล้วหัวเราะวิ่งเล่นกันอย่างมีความสุข....
และตอนนั้นแหละที่หลิวก็พบคำตอบของตัวเอง....
เราผิดหวัง เพราะเราคาดหวังอะไรที่มากว่าที่เราเคยชิน...
เราคาดหวังที่จะหาอะไรเพื่อเติมเต็มตัวเอง...
แต่สิ่งที่หลิวลืมมอง คือ เด็กๆ...
ทุกๆครั้งที่หลิวดูหนังแอนิเมชั่นของทิมเบอร์ตัน...
หลิวไม่เคยสนใจหรอกว่า....เด็กจะได้อะไร...
เพราะสิ่งที่หลิวสนใจ คือผู้ใหญ่อย่างเราจะได้อะไรมากกว่า....
เราผิดหวัง เพราะเราคาดหวังอะไรที่มากว่าที่เราเคยชิน...
เราคาดหวังที่จะหาอะไรเพื่อเติมเต็มตัวเอง...
แต่สิ่งที่หลิวลืมมอง คือ เด็กๆ...
ทุกๆครั้งที่หลิวดูหนังแอนิเมชั่นของทิมเบอร์ตัน...
หลิวไม่เคยสนใจหรอกว่า....เด็กจะได้อะไร...
เพราะสิ่งที่หลิวสนใจ คือผู้ใหญ่อย่างเราจะได้อะไรมากกว่า....
เพราะหนังของทิมเบอร์ตัน มีนัยยะถึงผู้ใหญ่ค่อนข้างมาก....
แต่ในเรื่อง into the wood
หลิวว่าน่าจะมีจุดประสงค์ที่แตกต่าง...
ต้วยสไตล์ของดีสนีย์
คือค่อยๆแทรกความดีความงาม
ผ่านเรื่องเล็กๆ สิ่งๆเล็กน้อยๆในการ์ตูน....
และเด็กจะรับมันไปโดยไม่รู้ตัว...
และทุกสิ่งเหล่านั้น
และเด็กจะรับมันไปโดยไม่รู้ตัว...
และทุกสิ่งเหล่านั้น
จะค่อยๆสอนให้เด็กมองโลกอย่างมีเมตตาและสวยงาม....
แต่ด้วยอะไรหลายอย่างในปัจจุบัน...
โลกที่หมุนเร็วขึ้น เด็กเริ่มจะรู้ว่าความฝันที่สวยงามนั้นไม่ใช่เรื่องจริง....
สภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป....
ความเพ้อฝัน และจิตนาการสุดโต่ง
แต่ด้วยอะไรหลายอย่างในปัจจุบัน...
โลกที่หมุนเร็วขึ้น เด็กเริ่มจะรู้ว่าความฝันที่สวยงามนั้นไม่ใช่เรื่องจริง....
สภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป....
ความเพ้อฝัน และจิตนาการสุดโต่ง
อาจไม่ได้ตอบโจทย์ทั้งหมด...
เมื่อก่อนเราอาจชอบเจ้าหญิงเจ้าชายจนอายุ 13-14"...
แต่เด็กสมัยนี้ โตเร็วกว่านั้น...
แล้วช่วงระหว่างนั้นล่ะ....
เทพนิยายก็เหมือนการปกป้องเด็กเอาไว้ด้วยความฝันที่สวยงาม...
แต่เมื่อก้าวพ้นมาจากเทพนิยายนั้นแล้วล่ะ....
เด็กบางคนก็โตอย่างผิดๆถูกๆ...
กลายเป็นผู้ใหญ่ที่แยกคำว่า
เมื่อก่อนเราอาจชอบเจ้าหญิงเจ้าชายจนอายุ 13-14"...
แต่เด็กสมัยนี้ โตเร็วกว่านั้น...
แล้วช่วงระหว่างนั้นล่ะ....
เทพนิยายก็เหมือนการปกป้องเด็กเอาไว้ด้วยความฝันที่สวยงาม...
แต่เมื่อก้าวพ้นมาจากเทพนิยายนั้นแล้วล่ะ....
เด็กบางคนก็โตอย่างผิดๆถูกๆ...
กลายเป็นผู้ใหญ่ที่แยกคำว่า
ความดี และความเลวออกจากกันอย่างสิ้นเชิง...
และสิ่งนี่แหละที่ทำให้สังคมทุกวันนี้
และสิ่งนี่แหละที่ทำให้สังคมทุกวันนี้
ขาดความเข้าใจซึ่งกันและกัน...
จนก่อเกิดมาเป็นปัญหาสังคมอย่างทุกวันนี้....
เราลืมคิดไปว่าคนเรามีทั้งดีและเลว
เรื่องนี้จึงเปรียบเสมือนการเติบโตของเทพนิยาย
จากโลกสวยงามแห่งความฝัน ความดีด้านเดียว...
เราลืมคิดไปว่าคนเรามีทั้งดีและเลว
เรื่องนี้จึงเปรียบเสมือนการเติบโตของเทพนิยาย
จากโลกสวยงามแห่งความฝัน ความดีด้านเดียว...
ไปจนถึงการตอบคำถาม ของผู้ใหญ่ที่เติบโตมาจากการเป็นเด็ก.....
"เทพนิยายไ่ม่มีจริง และสุขตลอดกาล นั้นไ่ม่มีจริง"
เรื่องนี้กำลังจะพาเราเดินไปที่ละขั้น
เหมือนกับบันไดขั้นที่หายไปของการเติบโต...
เด็กน้อยเติบโตจากความฝันที่สวยงาม...
และพบว่าแม้โลกแห่งความจริงนั้น...
"เทพนิยายไ่ม่มีจริง และสุขตลอดกาล นั้นไ่ม่มีจริง"
เรื่องนี้กำลังจะพาเราเดินไปที่ละขั้น
เหมือนกับบันไดขั้นที่หายไปของการเติบโต...
เด็กน้อยเติบโตจากความฝันที่สวยงาม...
และพบว่าแม้โลกแห่งความจริงนั้น...
จะไม่ใช่ดั่งในฝันเสมอไป....
ไม่มีอะไรที่ได้มาง่ายๆ พรทุกขอไม่ได้ได้มาโดยไม่เสียอะไรตอบแทน
ไม่มีอะไรที่ได้มาง่ายๆ พรทุกขอไม่ได้ได้มาโดยไม่เสียอะไรตอบแทน
คำสาปทุกอย่างไม่ได้มาแค่จากคำว่าโทสะและอิจฉาริษยา
และแม้ว่าในโลกแห่งความจริงนั้น
จะมีสิ่งที่ไม่ดี ความเจ็บปวด การสูญเสีย....
แต่ก็มีสิ่งที่ดีงามมากมายอยู่ในนั้นเช่นกัน.....
มิตรภาพ การให้อภัยและความเข้าใจ
"ทุกคนโทษกันเองว่าใครเป็นคนทำให้ยักษ์ลงมา.....
แต่สุดท้าย ทุกคนก็หันกลับมาช่วยกันแก้ไข
ทุกคนโทษแจ็ค ว่าแจ๊คเป็นต้นเหตุ
แต่สุดท้าย ทุกคนก็เลือกที่จะปกป้องแจ็คไว้"
นี่คือโลกแห่งความจริง....
ที่ถึงแม้เราจะทะเลาะเบาะแว้ง...
เราพบเจอแต่ปัญหา
แต่ก็มีสิ่งที่ดีงามมากมายอยู่ในนั้นเช่นกัน.....
มิตรภาพ การให้อภัยและความเข้าใจ
"ทุกคนโทษกันเองว่าใครเป็นคนทำให้ยักษ์ลงมา.....
แต่สุดท้าย ทุกคนก็หันกลับมาช่วยกันแก้ไข
ทุกคนโทษแจ็ค ว่าแจ๊คเป็นต้นเหตุ
แต่สุดท้าย ทุกคนก็เลือกที่จะปกป้องแจ็คไว้"
นี่คือโลกแห่งความจริง....
ที่ถึงแม้เราจะทะเลาะเบาะแว้ง...
เราพบเจอแต่ปัญหา
จนเห็นว่า โลกนี้ไม่ได้สวยงามอย่างในเทพนิยายที่เราเห็นตอนเด็กๆ......
แต่โลกนี้ก็ไม่ได้เลวร้าย.....
เพราะสิ่งดีดีในโลกนี้ก็ยังดีงาม...และขึ้นอยู่ที่เราว่าจะมองหาอะไร...
ระหว่างความเลว กับความดี.....
สุดท้าย หลิวก็ยังคงประทับใจดีสนีย์เหมือนเดิม....
เพราะดีสนีย์ คือผู้ใหญ่ที่ไม่เคยลืมเด็ก.....
เราอาจโตแล้ว จนลืมไปว่า เด็กๆ ไม่ได้เข้าใจอะไรเหมือนเรา....
เราอาจโตแล้ว จนคอยแต่มองหา อะไรที่ซับซ้อน มากกว่าเด็กๆ.....
เราอาจลืม ว่าเราเคยเป็นเด็กยังไง...
เคยเข้าใจอะไร....
หลิวนั่งอยู่ในโรงหนังพร้อมกับคำถามในใจว่า
หนังต้องการอะไร เมื่อร้องเพลงท้ายๆเรื่องว่า "เราไม่ได้อยู่เดียวดาย"
หนังจะบอกอะไร
จนกระทั่งเสียงหัวเราะของเด็กเหล่านั้น....
ทำให้หลิวเข้าใจว่า....
หนังไม่ได้บอกกับผู้ใหญ่...แต่กำลังบอกกับเด็กๆว่า...
"เด็กๆไม่ได้อยู่เดียวดาย"
แม้ผู้ใหญ่บางส่วน อาจลืมวัยเด็กของตัวเองไปแล้ว....
หนังจะบอกอะไร
จนกระทั่งเสียงหัวเราะของเด็กเหล่านั้น....
ทำให้หลิวเข้าใจว่า....
หนังไม่ได้บอกกับผู้ใหญ่...แต่กำลังบอกกับเด็กๆว่า...
"เด็กๆไม่ได้อยู่เดียวดาย"
แม้ผู้ใหญ่บางส่วน อาจลืมวัยเด็กของตัวเองไปแล้ว....
แต่ก็มีผู้ใหญ่อีกหลายๆคน...ที่ยังมองเห็นความสำคัญของวัยเด็ก....
ความคิดที่ละเอียดอ่อน และไม่ซับซ้อน....
ความคิดที่ละเอียดอ่อน และไม่ซับซ้อน....
ดิสย์นี่ย์ยังเติบโตไปพร้อมกับเด็กๆ หนังเรื่องนี้ทำให้หลิวเห็นแบบนั้น....
และเสียงหัวเราะของเด็กๆ ก็คอยย้ำเตือนให้ผู้ใหญ่รู้ว่า...
"เราต้องเติบโตไปพร้อมๆกับพวกเค้า และอย่าปล่อยพวกเค้าให้ต้องเดียวดายเพียงลำพัง"
และเสียงหัวเราะของเด็กๆ ก็คอยย้ำเตือนให้ผู้ใหญ่รู้ว่า...
"เราต้องเติบโตไปพร้อมๆกับพวกเค้า และอย่าปล่อยพวกเค้าให้ต้องเดียวดายเพียงลำพัง"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น